Sunday, June 14, 2015

ซ่อมบ้านเรื่องเล็กที่คุณทำได้ ด้วยของใช้ใกล้ตัว




       บ่อยครั้งที่อุปกรณ์และของใช้ในบ้าน ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน สามารถช่วยแก้ปัญหารวมถึงอำนวยความสะดวกเรื่องต่าง ๆ ให้เราได้ไม่น้อย แต่เป็นเพราะเราไม่เคยเห็นถึงประโยชน์ใช้งานอื่น ๆ ของมันเท่าไร เราจึงไม่รู้ว่าเพียงแค่ของใช้ชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถช่วยซ่อมแซมของใช้ในบ้านได้ด้วย ซึ่งปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้านเราก็สามารถซ่อมแซมและแก้ไขได้เองง่าย ๆ ด้วยของใช้ต่อไปนี้ค่ะ

1. อุดรูรั่วฝักบัวและสายยางด้วยไม้จิ้มฟัน

          ฝักบัวหรือสายยางที่รั่ว เราก็ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อใหม่ให้เปลืองเงินในกระเป๋า เพราะเจ้าไม้จิ้มฟันอันจิ๋วสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เราได้ชิล ๆ เพียงแค่นำไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปตรงจุดรั่วของฝักบัวหรือสายยาง จากนั้นก็หักเอาไม้จิ้มฟันส่วนเกินออก และไม่ต้องกลัวว่าเมื่อเราเปิดก็อกน้ำแล้วแรงดันน้ำจะผลักเอาเศษไม้จิ้มฟัน ที่เราอุดไว้ออกมา เพราะเมื่อไม้จิ้มฟันโดนน้ำ ก็จะบวมจนอุดรูรั่วได้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้งานสายยางและฝักบัวได้ตามปกติโดยที่ไม่ต้องเสีย เงินสักบาทแล้วล่ะ

2. ถุงน่องช่วยซ่อมมุ่งลวด

          หากหน้าต่างมุ้งลวดที่บ้านเกิดขาดเป็นรู ก็ไม่ต้องทนเสี่ยงให้ยุงและแมลงบินเข้ามากัดเราอีกต่อไปแล้ว เพราะถุงน่องของคุณสาว ๆ สามารถช่วยเราซ่อมแซมมุ้งลวดที่ขาดได้ง่าย ๆ โดยตัดถุงน่องให้มีขนาดพอ ๆ กับขนาดของรูที่ขาด จากนั้นใช้กาวซีเมนต์ทาให้ทั่วรูรั่ว และก็นำถุงน่องที่ตัดไว้ไปแปะทับ หรือถ้าต้องการความทนทานกว่านี้ แนะนำให้เย็บด้วยเข็มและด้ายเลยค่ะ

3. ป้องกันนิ้วมือจากค้อนด้วยไม้หนีบผ้า

          เชื่อได้ว่าหลายคนเคยตอกตะปูด้วยตัวเอง แล้วพลาดใช้ค้อนทุบลงบนมือโดยไม่ทันได้ระวัง แต่นับจากวันนี้ต่อไป จะไม่เกิดอุบัติเหตุน่าเจ็บใจแบบนี้ขึ้นอีกแล้วล่ะ เพราะถ้าหากจะต้องใช้ค้อนตอกอะไรสักอย่าง แนะนำให้คุณใช้ที่หนีบผ้า (ชนิดไม้จะดีที่สุด) หนีบนิ้วมือเอาไว้ก่อน เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันแรงทุบจากค้อนได้ระดับนึงแล้วล่ะค่ะ แต่ทางที่ดีที่สุด ก็ต้องอาศัยความระมัดระวังจากตัวคุณเองด้วยนะ

4. สายยางช่วยเคลียร์รางน้ำฝน

          ปกติรางน้ำฝนจะมีเศษใบไม้และเศษขยะเกะกะอยู่เต็มไปหมด ทำให้ระบายน้ำฝนได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะหน้าฝน ที่มีฝนตกอยู่บ่อย ๆ อย่างทุกวันนี้ ถ้ารางน้ำอุดตันก็คงจะสร้างปัญหาให้เราอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเรามาเคลียร์รางน้ำฝนให้โล่งสะอาดด้วยสายยางดีกว่า เพียงแค่ใช้สายยางเปล่า ๆ ดันสิ่งสกปรกให้ร่วงหล่นจากรางน้ำฝนโดยไม่ต้องเปิดก็อก เท่านี้เศษสกปรกที่อุดตันรางน้ำฝนอยู่ก็จะหมดไปได้อย่างง่ายดายแล้วค่ะ

5. คงสภาพสีพื้นปูนซีเมนต์ด้วยน้ำส้มสายชู

          พื้นปูนซีเมนต์ที่มีการทาสี เมื่อเวลาผ่านไปมักจะเกิดการหลุดลอกดูไม่สวยงาม แต่เราก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้ด้วยการใช้น้ำส้มสายชูทารองพื้นไปก่อน ปล่อยให้แห้งแล้วค่อยทาสีที่ต้องการทับลงไปอีกครั้ง หรือถ้าเป็นสีพลาสเตอร์ ก็ผสมน้ำส้มสายชูลงไป 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้สีพลาสเตอร์มีความยืดหยุ่น ติดคงทนมากขึ้น นอกจากนี้น้ำส้มสายชูยังสามารถขจัดคราบสนิมบนเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด โดยนำเครื่องมือที่เกิดสนิม จุ่มลงไปในน้ำส้มสายชูให้ท่วม ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน คราบสนิมก็จะหายไป เหลือแต่เครื่องมือที่ดูใหม่ขึ้นกว่าเดิมจ้า

6. ซ่อมผนังไวนิลด้วยเทปกาว

          ผนังไวนิลที่หลุดลอกเนื่องจากน้ำฝนและแสงแดด ก็ไม่จำเป็นต้องลอกและติดตั้งใหม่ให้เสียเวลาและเงินในกระเป๋า เพราะเพียงแค่ใช้เทปกาวที่มีสีใกล้เคียงกับสีผนังไวนิล มาติดทับไว้ แล้วเกลี่ยด้วยมือ หรือไม้บดขนมปังให้เรียบสนิท เท่านี้ก็จะไม่เห็นรอยตำหนิบนผนังไวนิลแล้วล่ะนอกจากนี้เรายังสามารถใช้เทป กาวพันเศษแก้วที่ตกแตก เพื่อป้องกันเศษแก้วบาดได้อีกด้วย

7.  แก้ปัญหาไส้กรองตู้เย็นอุดตันด้วยหลอดดูดยา

          ถ้าตู้เย็นของคุณมีน้ำหยดก็แสดงว่า ไส้กรองน้ำที่อยู่ด้านหลังตู้เย็นของคุณเกิดการอุดตัน ซึ่งเราก็สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้หลอดดูดยา ดูดน้ำร้อนแล้วฉีดใส่เข้าไปทำความสะอาดไส้กรอง จากนั้นก็ใช้หลอดดูดแอมโมเนียประมาณ 2 ช้อนชา ฉีดใส่เข้าไปในไส้กรองเพื่อกำจัดคราบสกปรกที่อุดตันท่ออยู่  เท่านี้ก็เรียบร้อยจ้า

8. ติดฝ้าเพดานด้วยกล่องกระดาษ

          หากฝ้าเพดานบ้านเกิดชำรุด แนะนำให้ใช้กล่องกระดาษหุ้มด้วยพลาสติก แล้วนำไปวางไว้ที่ใต้ฝ้าเพดาน เป็นการซ่อมแซมชั่วคราวเพื่อไม่ให้เพดานมีช่องโหว่ จากนั้นค่อยตามช่างมาซ่อมแซมแบบถาวรให้ภายหลัง เพียงเท่านี้ก็สามารถยืดระยะเวลาเสียเงินในกระเป๋าตังค์เราไปได้อีกระยะ หนึ่งแล้วนะคะ


          ของใช้ในบ้านที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน หรือแม้กระทั่งใช้กันอย่างคุ้นมือ ต่างก็มีประโยชน์ใช้สอยมากกว่าที่เราคิด อย่างอุปกรณ์ประจำบ้านที่เรานำเสนอให้ดู ก็สามารถช่วยซ่อมแซมและลดค่าใช้จ่ายให้เราได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ลองไปทำตามกันดูนะจ๊ะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment