Wednesday, July 31, 2019

10 สิ่งที่ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด เลี่ยงซะก่อนทำเครื่องพังคามือ!




          10 สิ่งของที่ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด แม้จะเก็บกวาดได้สะดวกและรวดเร็วกว่า แต่ควรเลี่ยงเพราะอาจทำให้เครื่องดูดฝุ่นพังจนต้องซื้อเครื่องใหม่  

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เครื่องดูดฝุ่น เป็นตัวช่วยทำความสะอาดบ้านยอดฮิตของคุณพ่อบ้าน-แม้บ้านยุคใหม่ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้สามารถกำจัดเศษผงเล็ก ๆ ละเอียด ๆ ได้อย่างหมดจด แต่ช้าก่อนค่ะ ใช่ว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบแห้งจะใช้ดูดทำความสะอาดได้หมดทุกอย่าง เพราะจริง ๆ แล้ว สิ่งของบางชนิดก็ไม่ควรทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่น ถ้าอยากให้เครื่องดูดฝุ่นใช้งานได้นาน ๆ ไม่ควรเอาไปทำความสะอาดของเหล่านี้นะคะ 

1. เส้นผม

          สังเกตกันไหมคะว่าร้านตัดผมส่วนใหญ่มักจะใช้ไม้กวาดในการทำความสะอาดมากกว่าเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะว่าหากใช้เครื่องดูดฝุ่นเส้นผมยาว ๆ กองใหญ่ ๆ เหล่านั้นจะเข้าไปอุดตันการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น แต่ก็ใช่ว่าจะใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเส้นผมที่ร่วงบนพื้นบ้านไม่ได้เลยซะทีเดียว ตราบใดที่ปริมาณเส้นผมไม่เยอะ ก็ยังสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้อยู่ 

2. เศษแก้ว

          นอกจากจะเป็นอันตรายกับคนแล้ว เศษแก้วยังทำให้เครื่องดูดฝุ่นเสียอีกด้วย เพราะจะทำให้ระบบภายในเครื่องติดขัดและขูดขีดจนเป็นรอย ซึ่งการทำความสะอาดเศษแก้วแตกที่ดีที่สุด ก็คือ การสวมถุงมือแล้วหยิบเอาเศษแก้วชิ้นใหญ่ ๆ ออกไปก่อน จากนั้นก็ค่อยนำเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาดเศษแก้วชิ้นเล็ก ๆ แค่นี้ก็ช่วยกำจัดเศษแก้วแตกบนพื้นได้อย่างหมดจด แถมช่วยถนอมเครื่องดูดฝุ่นไปได้ในตัวอีกด้วย

3. เศษดิน เศษใบไม้ และขี้เถ้า

          ถ้าหากใครเผลอทำเศษดินหกกระจายบนพื้น หรือมีเศษใบไม้ ดอกไม้ รวมถึงขี้เถ้าร่วงหล่นบนพื้นบ้านละก็ ควรใช้ไม้กวาด หรือไม่ก็รอให้ดินแห้งสนิทก่อน แล้วค่อยนำเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาด เพราะความชื้นของดินจะทำให้เกิดเชื้อราในตัวเครื่อง อีกทั้งเศษใบไม้ ดอกไม้ อาจจะเข้าไปอุดตันอยู่ในท่อดูด ส่วนผงขี้เถ้าที่มีความละเอียดสูง อาจจะถูกพัดไปติดข้างหลังเครื่อง หรือกระจายไปสู่ส่วนอื่นของบ้านได้ง่าย ซึ่งวิธีทำความสะอาดขี้เถ้าที่ดีที่สุด คือ โรยกากกาแฟลงไปบนขี้เถ้าก่อน จากนั้นก็นำผ้ามาเช็ดออก แล้วค่อยนำไปทิ้งค่ะ 

4. กากกาแฟ

          หากจะทำความสะอาดกากกาแฟให้กระดาษทิชชูมาเช็ดออกไปจะดีกว่า เพราะถ้าใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดกากกาแฟเข้าไป ผงกากกาแฟอาจจะเข้าไปเกาะอยู่ในระบบไฟฟ้าภายในเครื่อง อีกทั้งยังมีความชื้นสะสมที่อาจทำให้เกิดเชื้อราได้นั่นเอง 

5. แป้งและเครื่องสำอาง

          เวลาทำผงแป้งหกลงพื้น หลายคนมักจะใช้เครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาด เพราะช่วยกำจัดได้อย่างหมดจดและมีประสิทธิภาพ ทว่าบางครั้งการใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษละอองละเอียดเล็ก ๆ อย่างนี้ ก็สามารถทำให้มันลอยตัวกลับขึ้นมาในอากาศ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ ฉะนั้นถ้าหากใครไม่อยากเสี่ยง ขอแนะนำให้ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำเปียกจะดีที่สุด ส่วนพวกฝุ่นผงจากเครื่องสำอาง เช่น อายแชโดว์ บลัชออน หรือแม้กระทั่งลิปสติกและรองพื้นก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องดูดฝุ่นเช่นกัน เพราะเมื่อมันเข้าไปอยู่ในตัวเครื่อง ก็อาจละลายและสร้างความเสียหายกับเครื่องดูดฝุ่นได้

6. สกรูและน็อต

          สกรูและน็อตก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับมอเตอร์ของเครื่องดูดฝุ่นได้เหมือนกัน ฉะนั้นอย่าเผลอใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษอะไหล่พวกนี้เข้าไปเด็ดขาด โดยทางที่ดีเวลาทำความสะอาดบ้าน หากพบว่ามีสิ่งของเหล่านี้ตกหล่นอยู่ ก็ให้รีบเก็บขึ้นมาก่อนใช้เครื่องดูดฝุ่นดีกว่า

7. เหรียญ

          แน่นอนว่าเราไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเหรียญเข้าไปอยู่แล้ว แต่นอกจากเหตุผลที่ว่าเงินเป็นของมีค่า จนต้องเก็บรักษาเอาไว้ ก็ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือ เงินเหรียญสามารถแตกออกเป็นชิ้น ๆ ข้างในเครื่องดูดฝุ่นและสร้างความเสียหายได้ ดังนั้นคราวหน้าคราวหลังก็อย่าลืมเช็กบนพื้นให้ดีก่อนทำความสะอาด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายทีหลังไงล่ะ

8. กระดาษฝอย

          ถ้าหากใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษกระดาษฝอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ แต่ถ้าหากใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษกระดาษฝอยกองใหญ่ ๆ จำนวนเยอะ ๆ ละก็ สามารถทำให้มอเตอร์เครื่องดูดฝุ่นของคุณพังได้ ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่น่าลองเสี่ยงทั้งนั้น ดังนั้นหันใช้ไม้กวาดในการทำความสะอาดแทนเวิร์กสุด

9. ของเล่น

          ก่อนจะดูดฝุ่นทำความสะอาดบ้านทุกครั้ง ขอแนะนำให้มองหาสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ เช่น เลโก้ รวมถึงของชิ้นเล็ก ๆ อย่าง กิ๊บติดผมและคลิปหนีบกระดาษบนพื้น เก็บออกให้หมดก่อน เพราะไอเท็มจิ๋ว ๆ เหล่านี้ก็มีพิษสง สามารถอุดตันขวางท่อดูดฝุ่น หรือแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จนทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ได้

10. น้ำ

          หากเพราะหากมีน้ำเข้าไปในเครื่องดูดฝุ่นไม่ใช่แค่ทำให้ระบบไฟฟ้าขัดข้องหรือเสี่ยงต่อการโดนไฟฟ้าชอตเท่านั้น แต่อาจทำให้มีเชื้อราสะสมอยู่ในตัวเครื่องและส่งผลเสียในระยะยาว เพราะฉะนั้นก่อนทำความสะอาดควรใช้ผ้าเช็ดน้ำให้แห้งก่อนจะดีกว่า

          เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าไม่ใช่ทุกอย่างที่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยเครื่องดูดฝุ่น ฉะนั้นถ้าหากใครไม่อยากให้เครื่องดูดฝุ่นพังเร็วกว่ากำหนด จนต้องเปลืองเงินซื้อใหม่โดยใช่เหตุละก็ ขอแนะนำให้ลด ละ เลิกการนำเครื่องดูดฝุ่นไปทำความสะอาดวัตถุเหล่านี้ซะ แล้วอะไรที่สามารถเก็บได้ด้วยมือ หรือกวาดได้ด้วยไม้กวาด ก็ทำเถอะ รับรองง่าย ๆ แค่นี้ก็จะช่วยถนอมเครื่องดูดฝุ่นให้อยู่กับเราไปได้อีกนาน แถมยังประหยัดเงินและทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสุด ๆ ไปเลยด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจาก apartmenttherapy และ littlethings


Sunday, July 21, 2019

15 วิธีเตรียมความพร้อม รับมือปัญหาในบ้านที่มาพร้อมกับหน้าฝน



          ปัญหาบ้านหน้าฝนมีมากมายเลย แต่ปัญหาเหล่านั้นทำอะไรเราไม่ได้อีก แค่เพียงเราเตรียมตัวรับมือกับปัญหาบ้านในหน้าฝนไว้ให้พร้อมด้วยวิธีรับมือเหล่านี้

          หน้าฝนอาจทำให้อากาศภายในบ้านเย็นสบาย แต่ก็อย่าลืมว่ามีปัญหาตามมาไม่น้อย เช่น ปัญหาน้ำท่วมเข้าบ้าน ปัญหาหลังคารั่ว ทั้งยังส่งผลต่อส่วนอื่น ๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อราหรือคราบเหลืองที่มาจากน้ำฝน สำหรับบ้านเราก็ถือว่าเข้าหน้าฝนแล้ว ฉะนั้นมาเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือกับพายุฝนด้วย 15 วิธีดังต่อไปนี้กันค่ะ

          1. ซ่อมหลังคาและรอยรั่วให้เรียบร้อย ถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็ว่าได้ ถ้าตรวจเจอให้รีบซ่อมทันทีเพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมา

          2. ติดตั้งปั๊มน้ำระบายน้ำเสีย ห้องใต้ดินถือเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงที่สุดในหน้าฝน เพราะเป็นห้องที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ ระบบระบายน้ำธรรมดาอาจจะช่วยระบายน้ำไม่ทัน

          3. เช็กระบบไฟฟ้าในบ้าน ฝนตกย่อมมาพร้อมกับไฟดับในหน้าฝน ทั้งแบตเตอรี่สำรอง ไฟฉาย หรือแม้กระทั่งตะเกียง เทียนไข ควรหามาติดบ้านไว้จะดีที่สุด

          4. ทำความสะอาดท่อและรางน้ำ เพราะหากในท่อน้ำและรางน้ำมีเศษใบไม้ ดิน และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ค้างอยู่ ถ้าถูกน้ำฝนชะล้างก็จะกลายเป็นคราบสกปรกเปื้อนผนังบ้านได้ 

          5. ทาสีย้อมไม้กันน้ำ ทั้งลมและแดดในหน้าร้อนล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม้แตกเป็นรอย และถ้าน้ำฝนซึมเข้าไปในเนื้อไม้ ไม้บริเวณนั้นอาจเสียหายจนอาจจะต้องเปลี่ยนใหม่

          6. ตรวจหารอยรั่วตามหน้าต่าง ถึงแม้จะปิดหน้าต่างไว้แน่นสนิทแค่ไหน แต่ถ้าหน้าต่างมีรอยรั่ว น้ำฝนก็สาดเข้ามาทำความเสียหายให้บ้านได้ โดยเฉพาะตามขอบหน้าต่าง น้ำจะซึมเข้ามาทำให้เนื้อไม้บวมและเกิดคราบเหลืองบนผนัง

          7. ตรวจสอบระเบียงและกันสาด กันสาดบ้านเป็นอีกสิ่งที่ช่วยกันฝนสาด ไม่ว่าจะเป็นที่ระเบียงหรือหน้าต่างควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้

          8. กำจัดแหล่งมดและแมลงที่อยู่ในบ้าน มดและแมลงต่าง ๆ จะชอบหนีน้ำเข้ามาอยู่ในบ้าน ฉะนั้นควรกำจัดรังและแหล่งที่อยู่ให้สิ้นซาก เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงเหล่านั้นกลับมาอีก

          9. เตรียมอุปกรณ์ อย่างเช่น  กระสอบทรายหรือผ้ายางกันน้ำให้พร้อม เพราะฝนที่ตกอาจจะมีปริมาณน้ำมาก ท่ออาจจะระบายน้ำไม่ทันและไหลเข้ามาในบ้านสร้างความเสียหาย  

          10. ตรวจสอบระบบระบายน้ำในสวน หน้าฝนมีปริมาณน้ำที่มากกว่าปกติ ระบบระบายน้ำในสวนอาจจะระบายไม่ทัน น้ำจะขังทำให้ต้นไม้เน่าและตายได้

          11. ปิดระบบให้น้ำอัตโนมัติในสวน ปริมาณน้ำฝนในหน้าฝนเพียงพอต่อต้นไม้ในสวนแล้ว หรือถ้าวันไหนฝนไม่ตกก็ให้รดด้วยสายยางแทน

          12. ตั้งถังเก็บน้ำฝนตามท่อรางน้ำ ถึงแม้น้ำฝนในปัจจุบันจะไม่ค่อยปลอดภัยต่อการบริโภค แต่อย่างน้อยก็สามารถนำไปใช้รดน้ำต้นไม้หรือล้างรถได้

          13. ย้ายกระถางต้นไม้ต้นเล็ก ๆ เข้าในที่ร่ม เพราะรากต้นไม้เล็ก ๆ ที่ปลูกในกระถางอาจจะไม่แข็งแรงพอเมื่อต้องรับมือกับพายุฝน ฝนอาจจะชะล้างดินและขังอยู่ในกระถาง ทำให้รากเน่าและตายได้  

          14. ตัดกิ่งไม้แห้ง กิ่งไม้ที่ตายแล้วออก เพราะตอนฝนตกกิ่งไม้เหล่านั้นอาจหักลงมาทับคนหรือบ้านพังเสียหายได้

          15. เก็บไฟล์งานสำรองไว้ อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อมีฝน ถึงแม้เครื่องใช้และอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานทั้งหลายจะอยู่ในบ้าน แต่ก็ไม่ควรจะประมาท ทางที่ดีเก็บไฟล์งานสำคัญสำรองไว้ที่อื่นด้วยก็ดี         

ขอขอบคุณข้อมูลจาก sbcfire และ  latimes