1.
แก้อ่างล้างหน้าตันด้วยตัวเอง
การใช้พวกสารเคมีขจัดสิ่งอุดตันในท่อไม่ใช่วิธีที่ดีเสมอไป
เพราะจะเป็นการกัดกร่อนอ่างล้างหน้าของคุณให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นตามไปด้วย คุณจึงควรหันมาใช้วิธีขจัดสิ่งอุดตันที่ปลอดภัยกับอ่างล้างหน้าของคุณมาก
ขึ้นด้วยการใช้ไม้ปั๊มท่อแทน ทั้งนี้ขณะใช้ไม้ปั๊มดูดสิ่งอุดตันออกมา ควรเปิดก๊อกน้ำให้มีน้ำขังอยู่ในอ่างพอสมควรด้วย
จะช่วยให้ปั๊มทำงานง่ายขึ้นได้
2. ดูแลหลอดไฟให้ใช้ได้นาน ๆ
ถ้าคุณรู้จักดูแลรักษาหลอดไฟให้ถูกวิธี คุณก็ทำให้หลอดไฟที่ซื้อมามีอายุการใช้งานนานขึ้นได้ โดยสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ปิดสวิตซ์ไฟก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงถอดหลอดออกมาเช็ดด้านในด้วยไม้พันสำลีชุบแอลกอฮอลล์ แล้วจึงใช้ไขควงดันให้วงจรไฟฟ้าต่าง ๆ ในหลอดไฟแน่นขึ้นก่อนนำไปใช้งานอีกครั้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. เจาะกระเบื้องไม่ให้ผุกร่อน
เริ่มแรกนำไขควงมาวางทาบไว้บนพื้นที่ซึ่งคุณต้องการจะเจาะแล้วใช้ค้อนตอก เบา ๆ พอให้เกิดรอยเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้สว่านที่ใส่ดอกเจาะปูนค่อย ๆ เจาะเข้าไปตามรูที่เราทำเอาไว้โดยหยุดเป็นพัก ๆ กระเบื้องก็จะไม่แตกออกจนเป็นรอยดูไม่น่ามองบนกำแพง
4. ปัญหาประตูฝืดก็สำคัญ
คุณอาจมองว่าประตูฝืดเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ออกแรงเสียหน่อยก็ไม่มี ปัญหาอะไรแล้ว แต่ถ้าคุณมีเด็กเล็กหรือคนแก่อยู่ในบ้าน พวกเขาก็อาจติดอยู่ในห้อง เพราะไม่มีแรงพอจะกระชากประตูให้เปิดได้เหมือนกัน แถมคุณเองก็ยังต้องรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ต้องพยายามออกแรงเกินจำเป็น เพียงเพื่อเปิดประตูด้วย ดังนั้นควรแก้ปัญหานี้ให้หมดไป ด้วยการเลื่อยบานประตูด้านล่างออกเล็กน้อยให้สั้นลง แล้วทาสีเคลือบอีกชั้นเพื่อลดความฝืด ประตูของคุณจะได้เปิดได้ง่ายโดยไม่ติดขัดอีกต่อไป
5. กำจัดสีเหลือใช้ออกไปจากบ้าน
สีที่ถูกทิ้งไว้ไม่ได้ใช้นาน ๆ ต่อให้ปิดฝาไว้ สุดท้ายก็จะแห้งจนใช้ไม่ได้ในที่สุด เพราะฉะนั้นแทนที่จะเก็บเอาไว้เฉย ๆ จนเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ คุณก็ควรซื้อสีแค่ปริมาณพอใช้ก็พอ จะได้ไม่มีสีเหลือมากนัก นอกจากนี้ ถ้ายังมีสีเหลืออีกก็ควรเอาไปบริจาคตามโรงเรียนหรือสถานที่ต่าง ๆ ให้คนอื่นได้ใช้แทนที่จะเก็บเอาไว้เฉย ๆ
6. ระวังเรื่องแก๊สเป็นพิเศษ
ครัวแบบปิดที่มีแก๊สรั่วอยู่สามารถติดไฟได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจเลยล่ะ ฉะนั้นถ้าคุณได้กลิ่นแก๊สลอยออกมาก็อย่าประมาท ควรรีบปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ไฟฉาย หรือคอมพิวเตอร์ แล้วเรียกช่างมาดูทันทีเพื่อความปลอดภัย
7. รู้วิธีซ่อมกริ่งประตูบ้าน
หากกริ่งประตูที่บ้านของคุณไม่มีเสียงก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจออกไปซื้อ ใหม่ ลองหาวิธีแก้ไขด้วยตัวเองก่อน โดยถอดออกมาตรวจดูให้ละเอียดว่าที่กริ่งประตูคุณไม่มีเสียงเป็นเพราะเสียที่ สวิตซ์หรือเป็นเพราะตัวกริ่งเองกันแน่ จากนั้นจึงลองทำความสะอาดกริ่งหรือใช้ไขควงกดสายไฟให้แน่นขึ้นดู อาจช่วยให้กริ่งกลับมาใช้ดีเหมือนเดิมได้
8. เก็บรายละเอียดสินค้าที่ซื้อมาให้ดี
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ บางชิ้นโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ซื้อจากบริษัทที่เชื่อถือได้มักมี รับประกันอายุการใช้งานเสมอ ดังนั้นคุณจึงควรเก็บใบเสร็จและกล่องคู่มือเอาไว้ให้ดี ถ้าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนเกิดเสียภายในเวลาที่รับประกันขึ้นมา คุจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมโดยไม่จำเป็น
นอกจากใส่ใจดูแลบ้านเพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ใช้ได้นานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากแล้ว ก็ควรเอาใจใส่เรื่องความปลอดภัยของตัวคุณเอง
ด้วยการสวมถุงมือหรืออุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ ขณะซ่อมแซมอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยนะคะ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment